เป็นที่ทราบกันดีว่าผ้ากันเปื้อนนั้นเป็นวัสดุที่มีไว้เพราะช่วยอภิบาลคราบโกโรโกโสที่เกิดจะมาติดเครื่องแต่งกาย แต่แท้จริงแล้วใครจะรู้บ้างว่าผ้ากันเปื้อนนั้น ก็เป็นอีกหนึ่งวัตถุที่มีให้เลือกใช้งานได้หลากหลายแนวทางตามความประสงค์ แต่จะมีอย่างใดบ้าง และผ้ากันเปื้อนแบบไหม เหมาะกับการใช้งานในต้นแบบใด วันนี้บทความของเรามีข้อมูลตรงนี้มาฝากกัน แบบนี้
เริ่มต้นที่ผ้ากันเปื้อนแบบครึ่งตัว ที่นิยมใส่กันเพื่อความเป็นกฎระเบียบน่าพึงพอใจ เป็นผ้ากันเปื้อนที่ได้รับความชื่นชมมาตั้งแต่ยุคแรก เน้นการสวมเพื่อความงามเป็นกฎมากกว่าการคุ้มครองคราบมัวมอม
ต่อกันด้วยที่ผ้ากันเปื้อนแบบเต็มตัว เป็นผ้ากันเปื้อนที่คลุมตั้งแต่เหนือลำตัวลงมาถึงเข่า สามารถช่วยป้องกันการเกิดคราบสกปรก หรืออันตรายระหว่างการทำอาหารได้
ผ้ากันเปื้อนแบบพินาฟอร์ (Pinafore) ผ้ากันเปื้อนเหตุด้วยเด็ก มีต้นกำเนิดมาจากฝั่งยุโรป เป็นผ้ากันเปื้อนแบบเต็มตัวมีประเภทเป็นชุดลูกไม้ จึงเหมาะกับเด็กผู้หญิง
ผ้ากันเปื้อนแบบคอปเลอร์ เป็นผ้ากันเปื้อนแบบคลุมรอบตัว และมีสายรัดเพื่อเพิ่มความกระชับ สามารถป้องกันคราบได้แบบทั้งตัวส่วนมากมักเห็นกันในธุรกิจอุตสาหกรรมโรงงาน เช่นโรงงานแช่แข็ง หรือโรงงานสี หรืออุตสาหกรรมการผลิตยา
ผ้ากันเปื้อนแบบคัปโปงิ เป็นชุดกันเปื้อนแบบมีแขนของญี่ปุ่น จากเดิมนิยมใส่กันสำหรับป้องกันคราบสกปรกของกิโมโน หากในช่วงปัจจุบัน การกำหนดนำมาใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม
ผ้ากันเปื้อนแบบมะเอะกะเกะ เป็นผ้ากันเปื้อนที่การตั้งกฎเกณฑ์ใช้กันเปื้อนที่หน้าขา มีหนทางเป็นผ้าสีขาว มักใช้กันในกลุ่มของซามูไรและพ่อค้า
ผ้ากันเปื้อนแบบบิ๊บ เป็นผ้ากันเปื้อนที่พบเห็นกันได้ทั่วไป มีประเภทเป็นผ้าปิดด้านหน้าและมีสายคาดแขวนคอขนาดเล็กพร้อมกันมีเชือกรัดขอบขัณฑสีมาเอว มีกระเป๋าด้านหน้าเพื่อบรรจุเครื่องมือ หรือวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ
ผ้ากันเปื้อนแบบทักซิโด้ เป็นผ้ากันเปื้อนที่มีการออกแบบออกมาให้เหมือนกับสูททักซิโด้ การตั้งกฎเกณฑ์ใช้กันในโฮเต็ลหรือภัตตราคารสภาพพรีเมียม
ผ้ากันเปื้อนแบบ 4 Wayเป็นผ้ากันเปื้อนที่พ่อครัวนิยมใช้ มีลักษณะเป็นผ้ากันเปื้อนแบบพันรอบเอว เพื่อให้สะดวกต่อการเช็ดทำความสะอาดมือระหว่างการทำอาหาร
ผ้ากันเปื้อนแบบBistro ผ้ากันเปื้อนที่มีความยาวครึ่งเข่า มีช่องกระเป๋าด้านหน้าพร้อมผ้ามัดเอว แบบใช้กันในกลุ่มห้องอาหาร หรือภัตตราคาร